รีวิวเครื่องฟอกอากาศดีไซน์สวย LightAir จากสวีเดน

วันนี้ขอเปลี่ยนบรรยากาศจากรีวิวบ้านมาเป็นรีวิวของแต่งบ้านที่สามารถใช้ประโยชน์ได้จริงกันบ้างนะครับ สำหรับเอ็นทรี่นี้ผมเขียนไว้ในบล็อกส่วนตัว (www.everythingisee.in.th) แต่ขอนำมารีโพสต์อีกครั้งหนึ่ง เผื่อเป็นตัวเลือกในการตัดสินใจเลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศสักเครื่องครับ 🙂
 ช่วงนี้เทรนด์การรักษาสุขภาพกำลังมาแรงนะครับ เพราะเทคโนโลยีต่างๆพัฒนาไปมากแต่ในทางกลับกันต่างก็มีสิ่งปั่นทอนสุขภาพร่างกายมากมายเช่นเดียวกัน ทั้งโรคที่มากับอาหาร และโรคที่เกิดจากสภาพแวดล้อม ดังนั้นถ้าอยากมีชีวิตที่ดีเราคงต้องเริ่มดูแลร่างกายตั้งแต่วันนี้แล้วหล่ะครับ  เริ่มต้นง่ายๆก็ด้วยการดูแลเรื่องอาหาร(ด้วยการนับแคลอรี่) การออกกำลังกาย(ใช้อุปกรณ์ wearable หรือสมาร์ทโฟน ในการตรวจจับการเคลื่อนไหว และวิเคราะห์ผลการออกกำลังกาย) แต่สิ่งที่หลายๆคนอาจจะละเลยกลับเป็นภายในบ้านที่เราอาศัยอยู่นี่แหละครับ
The Family 700x
ที่มา: Flickr
     อากาศเป็นสิ่งพื้นๆที่เราสูดหายใจเข้าไปอยู่ทุกวัน แต่อากาศที่เราหายใจเข้าไปนั้นเต็มไปด้วยอะไรบ้างล่ะเนี่ย นอกจากก๊าซอ็อกซิเจนและคาร์บอนไดออกไซด์ แล้วยังประกอบไปด้วยสิ่งอื่นๆ อาทิ ขนสัตว์ ไรฝุ่น เกษรดอกไม้ และควันพิษต่างๆ อีกมากมาย แม้แต่ผมที่อยู่ต่างจังหวัดยังมีปัญหาควันไฟจากการเผาหญ้า/ไฟป่าอยู่เลยครับ แล้วยิ่งถ้าอยู่ในเมืองที่หนาแน่นคงจะแย่กว่ากันมากๆแน่เลยครับ ซึ่งปัญหาพวกนี้พอทิ้งไว้จะกลายเป็นสาเหตุให้เกิดโรคทางเดินระบบหายใจต่างๆ อาทิ ภูมิแพ้ หอบหืด  เป็นต้นครับ ส่วนตัวผมเองก็ไม่ค่อยจะถูกกับเครื่องปรับอากาศสักเท่าไร เลยกำลังมองหาเครื่องฟอกอากาศ ดีไซน์สวยๆ เอามาตกแต่งห้องได้ และค่าใช้จ่ายโดยรวมไม่สูงมากครับ (เครื่องฟอกอากาศนี่ไม่ใช่แค่ซื้อเครื่องมาแล้วจบนะครับ มันมีมากกว่านั้น ทั้งค่าไฟ ไส้กรอง ฯลฯ) เลยมองหาที่มีจำหน่ายตามห้างต่างๆ แต่ดีไซน์ยังไม่โดนครับ (อย่างที่บอกผมเน้นดีไซน์ ….ตามแบบบล็อกเกอร์สายบ้านและสวน) จนกระทั่งเจอเจ้าตัวเครื่องฟอกอากาศ LIGHTAIR จากเว็บ Lightair.com ครับ
LightAir เครื่องฟอกอากาศดีไซน์สุดสวยLightAir เครื่องฟอกอากาศดีไซน์สุดสวย
เห็นครั้งแรกนี่ผมไม่นึกว่าเป็นเครื่องฟอกอากาศเลยครับ นึกว่าเป็นโคมไฟสำหรับตกแต่งบ้านเสียอีกนะครับ
******************************************************************************************

ดีไซน์ที่สวยงาม

 รูปลักษณ์ของ LIGHTAIR มีการออกแบบที่สวยงามแปลกตาจากเครื่องฟอกอากาศทั่วๆไปที่มักมีรูปทรงสี่เหลี่ยม แต่เจ้า LIGHTAIR เนี่ยมีลักษณะเป็นแท่งทรงกลมคล้ายลิปสติก มีฐานโปร่งใสพร้อมหลอดไฟ LED สีฟ้า (สามารถปรับเปลี่ยนเป็นสีเขียว หรือแดง ก็ได้ครับ) สามารถวางประดับไว้เป็นของตกแต่งบ้านสไตล์โมเดิร์นได้เลยครับ นอกจากนั้นยังมีรูปแบบโคมแขวน ซึ่งน่าจะเหมาะกับร้านกาแฟหรือร้านอาหารในห้องแอร์ที่มีการตกแต่งด้วยโคมไฟอยู่แล้ว ก็สามารถแทรกไปได้อย่างกลมกลืนเลยทีเดียวครับ
อ้อเจ้า LIGHTAIR เนี่ยได้รับรางวัลการออกแบบ IDEA และ Oxygen Award ด้วยนะครับ มิน่าล่ะออกมาดูดีซะเหลือเกิน
จากเท่าที่ดูในโปรชัวร์เหมือนจะมี 4 แบบที่นำเข้ามานะครับ

ขอแบ่งตามชื่อรุ่นละกันครับ

  • Sky : ออกแบบมาให้ใช้แขวนเพดาน เหมาะสำหรับบ้านที่หลังคาสูง หรือมีเด็กวัยกำลังซนซึ่งอาจจะไปเผลอทำ LightAir แบบตั้งพื้นล้มลงมาได้  นอกจากนั้นก็ยังเหมาะสำหรับร้านอาหารและร้านกาแฟต่างๆครับ ครอบคลุมพื้นที่ฟอกอากาศ 50 ตร.ม.
  • Surface : รุ่นสำหรับตั้งโต๊ะหรือตั้งพื้น สูงประมาณ 56 ซม. (ประมาณพัดลมตั้งโต๊ะ) เหมาะสำหรับบ้านที่ไม่มีพื้นที่มากนัก หรือตั้งไว้ในห้องนอน  น้ำหนักเพียง 2.6 กก. วางบนโต๊ะได้สบายครับ ครอบคลุมพื้นที่ฟอกอากาศ 50 ตร.ม.
  • Style : เป็นรุ่นตั้งพื้น จะสูงกว่ารุ่น Surface ประมาณ 10 ซม. (ความสูงรวม 66 ซม.) เหมาะสำหรับตั้งพื้น และใช้ตกแต่งบ้านได้ในตัว ครอบคลุมพื้นที่ 50 ตร.ม.
  • Signature : เป็นรุ่นตั้งพื้นตัวท็อป คลอบคลุมพื้นที่ฟอกอากาศ 66 ตร.เมตร (ประมาณ 8 x 8 เมตร.) ออกแบบมาในโทนสีทองดูหรูหรา เข้ากันกับชุดเฟอร์นิเจอร์ไม้ รวมถึงการแต่งบ้านสไตล์วินเทจครับ

รายละเอียดของ LIGHTAIR ทั้ง 4 รุ่น

 *******************************************************************************************

ประสิทธิภาพการทำงาน

 ก่อนอื่นมาดูรูปแบบการทำงานของเจ้าเครื่องฟอกอากาศ LIGHTAIR ตัวนี้กันก่อนว่าเป็นแบบไหน มีอะไรที่น่าสนใจบ้างครับ

ตัวเครื่องฟอกอากาศ LIGHTAIRจะประกอบด้วยส่วนต่างๆ 5 ส่วนดังนี้ครับ

  1. เครื่องกำเนิดประจุลบและเข็มโคโรน่า ถือได้ว่าเป็นหัวใจสำคัญของเครื่องเลยครับ โดยตัวเครื่องจะสร้างอนุภาคประจุลบขึ้นมาแล้วดึงอนุภาคแขวนลอยที่เป็นพิษ (ไวรัส, แบคทีเรีย, เกษรดอกไม้, ควันบุหรี่, เชื้อรา, ไรฝุ่น, ฝุ่น, สารก่อภูมิแพ้ และอื่นๆ) เข้าไปเก็บไว้ในตัวดักจับครับ
  2. ตัวดักจับรูปทรงกลม อุปกรณ์นี้จะทำหน้าที่ดึงดูดประจุลบที่จับกับอนุภาคมลพิษที่ลอยในอากาศแล้วมาสะสมไว้ เมื่อจำนวนอนุภาคพิษในอากาศลดลง อากาศก็จะสะอาดขึ้น ทำให้หายใจได้เต็มปอดมากขึ้น ซึ่งตัวดักจับนี้สามารถล้างทำความสะอาดได้ด้วยน้ำเปล่าครับ
  3. ตัวครอบตัวดักจับรูปทรงกลม สำหรับไว้ครอบตัวดักจับอีกที กันไว้สำหรับคนมือซน (แต่ตัวเครื่องก็มีความปลอดภัยมาตรฐานสากลอยู่แล้วครับ) จะใส่หรือไม่ใส่ก็ได้ครับ
  4. ไฟ LED สำหรับตกแต่ง  ตัวหลอดไฟ LED ของเครื่องฟอกอากาศ LIGHTAIR สามารถปิด/เปิดได้ โดยแสงปกติจะเป็นสีฟ้าแต่สามารถปรับเปลี่ยนเป็นสีเขียวหรือสีขาว สีแดง ก็ได้ครับ
  5. ขาตั้ง สำหรับขาตั้งเป็นวัสดุอะคลิลิคใสอย่างหนา แต่สำหรับตัวรุ่น Surface จะขาสั้นกว่ารุ่นอื่น เพราะต้องให้เหมาะกับการจัดวางบนโต๊ะครับ แต่รุ่น Sky จะไม่มีนะครับ เพราะใช้การแขวนบนเพดานแทนครับ

ส่วนประกอบต่างๆ

กระบวนการการทำงานของ LIGHTAIR

     ตัวเครื่องฟอกอากาศ LIGHTAIR ใช้เทคโนโลยีเฉพาะที่มีชื่อว่า IonFlow ในการกำจัดอนุภาคมลพิษในอากาศ สรุปเป็นขั้นตอนอ่านง่ายๆดังนี้ครับ
ดูวิดีโอที่ลิงค์นี้ https://www.youtube.com/watch?v=x-pllouBRCs
0. ในห้องปกติทั่วไป ล้วนแต่มีสารแขวนลอย ล่อยลอยในอากาศ
1. เครื่องฟอกอากาศ LIGHTAIR จะสร้างประจุลบและปล่อยประจุลบจำนวนนับล้านล้านประจุออกไปในอากาศ
2.ประจุลบเข้าไปจับกับอนุภาคแขวนลอยที่เป็นพิษ (ไวรัส, แบคทีเรีย, เกษรดอกไม้, ควันบุหรี, เชื้อรา, ไรฝุ่น, ฝุ่น, สารก่อภูมิแพ้ และอื่นๆ)
3.อนุภาคที่ถูกดักจับจะกลายเป็นประจุลบและถูกดึงดูดเข้าสู่ตัวดักจับฝุ่นรูปทรงกลม ที่ปล่อยอิออนบวกเสมือนแม่เหล็ก ทำให้ถูกดึงกลับเข้ามาติดกับตัวดักจับ
4.ปริมาณอนุภาคที่เป็นพิษในอากาศลดลง ก็หมายความว่าอากาศสะอาดขึ้นครับ
5.การทำความสะอาดเพียงแค่ถอดปลั๊ก และถอดตัวดักจับไปล้างด้วยน้ำสะอาด ผึ่งให้แห้งก่อนนำมาใช้ต่อครับ บอกลาระบบไส้กรองแบบเดิมๆไปได้เลย
หมายเหตุ: ตัวดักจับฝุ่นรูปทรงกลมนี้ได้รับการยอมรับในประสิทธิภาพว่าเทียบเท่าไส้กรอง HEPA ซึ่งใช้ในเครื่องปรับอากาศยี่ห้อดังทั้งหลายครับ
 ********************************************************************************************
1.สามารถกำจัดอนุภาคมลพิษในอากาศ ขนาด 0.3-1 ไมครอน
– ในการทดสอบที่มีการเติมควันเข้าไปอย่างต่อเนื่อง พบว่าเครื่องฟอกอากาศ LIGHTAIR ใช้เวลาเพียง 5 นาที ในการกำจัดอนุภาคขนาด 0.3-1.0 ไมครอน
*1 ไมครอน = 1/1000 มิลลิเมตร
2.สามารถกำจัดเชื้อแบคทีเรียในอากาศ 88% ในเวลา 3 ชั่วโมง
 ******************************************************************************************

Ozone Free!

เครื่องฟอกอากาศ LIGHTAIR มีการปล่อยโอโซนที่ระดับ 0 (หรือ Ozone Free) ซึ่งก็คือเครื่องฟอกอากาศตัวนี้จะไม่มีการปล่อยโอโซนที่ไม่ดี(ซึ่งเป็นโอโซนที่สูงกว่าพื้นดินไม่เกิน 2 กม. ส่วนโอโซนที่ดีคือโอโซนที่สูงกว่าระดับพื้นดิน 40 กม.ขึ้นไปครับ) ซึ่งโอโซนที่ไม่ดี ที่พบเห็นง่ายๆก็คงเป็น ควันจากท่อไอเสียรถยนต์ เป็นต้นครับ

ถ้าหากเครื่องฟอกอากาศที่ควรให้อากาศบริสุทธิ์ดันปล่อยโอโซนออกมาในขณะที่เรายังอยู่ในห้องหรือในบ้าน ผมว่าคงไม่ใช่เรื่องดีแน่ครับ
(อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับโอโซน : http://www.il.mahidol.ac.th/e-media/ecology/chapter2/chapter2_airpolution8.htm)
*******************************************************************************************

ความเงียบที่คุณต้องการ

     คงไม่ดีแน่ครับ ถ้าในเวลาที่คุณทำงาน หรือพักผ่อนถูกรบกวนด้วยเสียงการทำงานของมอร์เตอร์พัดลม ด้วยการที่เครื่องฟอกอากาศ LIGHTAIR ถูกออกแบบมาไม่ต้องมีพัดลมในการดูดอากาศแต่อาศัยหลักการปล่อยประจุลบเข้าไปดักจับมลภาวะที่เป็นพิษแทน ตัวเครื่องจึงทำงานด้วยความดังเพียง 5 เดซิเบล ซึ่งต่ำกว่าระดับเสียงหายใจของมนุษย์ที่ระยะ 3 เมตรเสียอีกครับ (อ้างอิงhttp://th.wikipedia.org/wiki/เดซิเบล ) จึงไม่ต้องห่วงว่า LIGHTAIR จะส่งเสียงเข้าไปรบกวนเวลาทำงานหรือพักผ่อนครับ
ที่มา: Wikimedia
********************************************************************************************

อายุการใช้งานเครื่องและการบำรุงรักษา

LIGHTAIR แต่ละเครื่องจะมีอายุการใช้งานเฉลี่ยประมาณ 10 ปี (อายุการรับประกัน 3 ปี มีศูนย์บริการในไทย) ตัวเครื่องไม่มีระบบไส้กรอง ทำให้การดูแลรักษาทำได้โดยง่ายครับ เพียงแค่ถอดชุดดักจับมาล้างด้วยน้ำสะอาด ผึ่งลมให้แห้งก่อนประกอบเข้าไปใหม่ แค่นั้นเอง  ถ้าเป็นเครื่องฟอกอากาศที่มีไส้กรองก็จะต้องเปลี่ยนไส้กรองตามอายุการใช้งาน (ซึ่งก็มีค่าใช้จ่ายอีกตามประเภทของแผ่นกรอง ตั้งแต่ไม่กี่ร้อยจนถึงหลายพันบาท) แต่ตัวLIGHTAIR ไม่มีไส้กรองจึงไม่มีค่าใช้จ่ายตรงจุดนี้ครับ
ส่วนพลังงานที่ใช้เพียงแค่ 7 วัตต์ต่อชั่วโมง หากเปิดตลอด 24 ชั่วโมงเป็นเวลา 1 ปี ค่าไฟฟ้าจะตกประมาณไม่เกิน 170 บาท/ปีครับ (เฉลี่ยวันละ 46 สตางค์) ถ้า 10 ปีก็เพียง 1,700 บาทเท่านั้นเอง ถูกมากๆครับ
ป.ล.ผมคิดเผื่อไฟฟ้าขึ้นราคาไว้เลยครับ ค่าไฟฟ้า 1 ปี ราคาพอๆกับกาแฟ 1 แก้ว + ขนม 1 ชิ้น O..o!!
 ******************************************************************************************

แบรนด์ที่ไว้วางใจได้

     ปกติแล้วเวลาที่เราเจอแบรนด์สินค้าที่ไม่เคยได้ยินชื่อนี่ เรามักจะมีข้อสงสัยว่ามันดีจริงหรือเปล่า แบรนด์ใหม่หรือเปล่า ถ้าสั่งจากต่างประเทศมามันเสียจะส่งซ่อมยังไง ฯลฯ ผมเลยลองหาข้อมูลต่อจนพบว่าตอนนี้ในประเทศไทยมีตัวแทนจำหน่ายเครื่องฟอกอากาศ LIGHTAIR เป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ (ไม่ต้องสั่งซื้อจากต่างประเทศแล้ว)  LIGHTAIR เป็นเครื่องฟอกอากาศสัญชาติสวีเดน แถมยังเป็นสินค้าขายดีในประเทศสีเดนอีกด้วย ซึ่งมาตรฐานทางฝั่ง EU นั้นไว้วางใจได้เลยครับ  นอกจากนั้นยังได้ส่งออกไปจำหน่ายยังประเทศต่างๆ อาทิ ไต้หวันและญี่ปุ่น ทวีปยุโรบ ทวีปอเมริกาเหนือ รวมๆแล้ว 18 ประเทศทั่วโลก ในปัจจุบัน บริษัท ลิฟวิ่งแคร์ เทรดดิ้ง จำกัด เป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้าตัวนี้ในประเทศไทยครับ
     สำหรับ LIGHTAIR นั้นก่อตั้งเมื่อปี 2004 (นับจากนี้ก็ 10 ปี) ในกรุงสต็อกโฮล์ม ประเทศวีเดน แต่ก่อนที่จะเป็น LIGHTAIR ในปัจจุบันนั้น ทางทีมงานได้มีประสบการณ์กว่า 25 ปีเกี่ยวกับระบบฟอกอากาศและยังได้คิดค้นเทคโนโลยี CellFlow และ IonFlow ที่ใช้ใน LIGHTAIR  รุ่นปัจจุบันนี้ครับ

เครื่องฟอกอากาศ LIGHTAIR นี้เหมาะกับใคร

     เครื่องฟอกอากาศ LIGHTAIR นี้นอกจากจะเป็นหนึ่งในรายการที่ผมต้องมีในบ้านแล้ว ผมยังคิดต่อไปว่าคนที่น่าจะเหมาะกับเครื่องฟอกอากาศแบบนี้ มีดังนี้ครับ
  • คนที่รักสุขภาพ ต้องการอากาศที่บริสุทธิ์ ซึ่งทุกวันนี้แค่ออกจากบ้านเราก็เจอมลภาวะต่างๆมากมาย ทั้งฝุ่น ควันบุหรี่ ท่อไอเสีย แบคทีเรีย ไวรัส และสารแขวนลอยที่ลอยไปมาในอากาศอีกมากมาย เวลากลับมาบ้านก็น่าจะให้ปอดพักผ่อนบ้าง ด้วยการหายใจเอาอากาศบริสุทธิ์เข้าสู่ร่างกาย
  • ผู้ที่มีปัญหาในโรคภูมิแพ้ต่างๆ รวมถึงผู้มีปัญหาในระบบทางเดินหายใจครับ
  • บ้านที่มีเด็กอ่อน หรือผู้สูงอายุที่ต้องอยู่บ้านเกือบตลอดทั้งวัน นอกจาก LIGHTAIR จะสามารทำงานได้แบบ 24/7 (24 ชั่วโมง 7 วัน ต่อเนื่อง) แล้วค่าไฟที่ต้องเสียก็น้อยมากครับ วันละไม่เกิน 50 สตางค์
  • ร้านอาหาร หรือร้านกาแฟ ด้วยรูปแบบที่ทันสมัยนอกจากจะใช้เป็นเครื่องฟอกอากาศแล้ว ยังเป็นของตกแต่งร้านได้อีกด้วยครับ
  • ออฟฟิศ หรือผู้ทำงานแบบโฮมออฟฟิศ, ฟรีแลนซ์  อาชีพเหล่านี้ต้องทำงานอยู่กับที่เป็นเวลานาน สภาพแวดล้อมในการทำงานก็เป็นเรื่องสำคัญครับ อากาศที่ดีก็ทำให้เม็ดเลือดแดงนำพาออกซิเจนไปเลี้ยงส่วนต่างๆได้ดีขึ้น (แทนที่จะพาสารพิษเข้าไปเปลี่ยนเป็นออกซิเจนดีกว่ามั๊ย) การคิดงานก็จะดีขึ้นครับ

ลงทุนในวันนี้ เพื่อสุขภาพที่ดีในวันนี้ครับ 😉

*******************************************************************************************

ราคาของเครื่องฟอกอากาศ LIGHTAIR

    สนนราคาของเครื่องฟอกอากาศ LIGHTAIR เนี่ยไม่ได้แตกต่างจากเครื่องฟอกอากาศที่เราเห็นกันสักเท่าไรครับ ยิ่งเมื่อมาคิดค่าบำรุงรักษาที่ต่ำกว่า (ไม่ต้องเปลี่ยนแผ่นกรองอากาศที่มีราคาสูง) และค่าไฟปีละไม่เกิน 150 บาท ในระยะยาว LIGHTAIR ดูจะมีค่าใช้จ่ายถูกกว่าเสียอีกครับ โดย LIGHTAIR แต่ละรุ่นจะมีราคาดังต่อไปนี้ครับ (แถมตอนนี้มีโปรโมชั่นแนะนำสินค้าลดราคาไปเยอะเหมือนกันครับ)

  • LIGHTAIR  รุ่น Signature : ราคาปกติ 28,900 บาท (ราคาโปรโมชั่นเหลือเพียง 20,900 บาท)
  • LIGHTAIR  รุ่น Surface : ราคาปกติ 21,900 บาท (ราคาโปรโมชั่นเหลือเพียง 15,900 บาท)
  • LIGHTAIR  รุ่น Style : ราคาโปรโมชั่น 15,900 บาท (เฉพาะ 1 – 31 ธันวา 57 นี้)
  • LIGHTAIR  รุ่น Sky : ราคาปกติ 18,900 บาท (ราคาโปรโมชั่นเหลือเพียง 13,900 บาท)
สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้จากเว็บไซต์ www.livingcare.co.th เลยครับ
 *******************************************************************************************

 ประสบการณ์หลังการใช้งาน

     หลังจากที่หาข้อมูลได้สักพัก เลยตัดสินใจว่าจะลองซื้อหามาใช้ดูสักตัวครับ ความจริงอยากได้รุ่น Signature แต่ราคาสูงไปนิดนึง (งบไม่พออ่ะ T^T ) ดูตามงบประมาณในกระเป๋าก็พอได้รุ่น Surface กับ Style แต่อยากได้ตัวเล็กๆเผื่อไว้หิ้วไปโน่น มานี่ครับ เลยเลือกรุ่น Surface มาใช้ล่ะกันครับ หลังจากทำการสั่งซื้อและชำระเงินเรียบร้อย ประมาณ 2 วันก็มีรถขนส่งเอกชนเอาของมาส่งให้ถึงบ้านครับ
LightAir Surface
กล่องขนาดกระทัดรัดครับ ประกอบเองได้ง่ายมากๆ ตัวแพ็คเกจออกแบบมาได้สวยสมราคาของแพงครับ  สามารถประกอบเองได้ไม่ยากอะไร (ทำตามคู่มือนั้นแหละครับ) ไฟที่ติดตั้งตอนแรกจะเป็นสีน้ำเงิน เลือกได้แค่ปิด/เปิด ถ้าสามารถกระพริบตามเสียงเพลงได้จะดีมากๆเลย เสียดายจริงๆ ถ้าอยากเปลี่ยนสีหลอดไฟต้องถอดเปลี่ยนนะครับ ในกล่องมีหลอดไฟ LED มาให้เรียบร้อยแล้ว
LightAir Surface Shield
แผ่นครอบกันมือไปโดนตัวดักจับฝุ่นครับ
แผ่นครอบตัวดักจับฝุ่นนี่เหมาะสำหรับบ้านที่มีเด็กๆครับ กันเผลอเอามือไปโดนตัวดักฝุ่น ซึ่งจะมีไฟฟ้าสถิตอยู่พอจับดูจะรู้สึกจี้ดๆ
แต่ถ้าจับไปเลยก็ไม่รู้สึกอะไรครับ (แต่ถ้าแตะแบบเฉียดๆนี่จะรู้สึก) อ้อ…ตัวเครื่องมีมาตรฐานไม่มีไฟรั่วแน่นอนครับ
ตอนหลังๆก็เลยถอดออก เพราะชอบแบบไม่ใส่ตัวครอบจะสวยกว่า
LightAir Surface ประกอบเสร็จแล้ว สวยเหมือนกันนะเนี่ย
LightAir Surface
ตั้งบนโต๊ะ เป็นของตกแต่งบ้านไปในตัว

พอผ่านไปสี่วัน เริ่มสังเกตุเห็นฝุ่นมาจับ

สรุป

หลังจากใช้งานไปสักระยะ ก็จะเริ่มมีฝุ่นมาจับครับ สรุปว่าใช้ได้อยู่นะเนี่ย เสียงแทบจะไม่มีเลยครับ ต้องเอาหูไปแนบใกล้ๆถึงจะได้ยิน การฟอกอากาศก็ถือว่าช่วยได้ในระดับหนึ่ง ทำให้หายใจสะดวกมากขึ้น อาการจามก็น้อยลง แต่ถ้าจะให้หายขาดต้องออกกำลังควบคู่ไปด้วยครับ (ตอนเป็นทหารนี่ฝึกหนักมากจนไม่เป็นภูมิแพ้เลย) ส่วนเรื่องการกำจัดกลิ่นก็ถือว่าทำได้สมราคาคุยครับ ทำเนื้อย่างทานกันเสร็จ เปิดเครื่องแป๊บเดียวกลิ่นหายหมดเลย แต่ว่ามันดูดกลิ่นของเตาอโรม่าไปด้วยนี่สิ >//< สรุปว่าถ้าจะจุดเตาอโรม่าควรปิดเครื่องก่อนนะครับ  โดยรวมผมพอใจค่อนข้างมากเลยครับกับสิ่งที่ได้รับ โดยเฉพาะดีไซน์ที่สวยงามเอาไปเป็นของตกแต่งบ้านได้เลยนะเนี่ย  ^ ^

ที่มา: http://livingcare.co.th/, LightAir.com

ใส่ความเห็น